รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น

8 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น

การอบรมปฐมพยาบาลคืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรต่อองค์กร

การอบรมปฐมพยาบาล (First Aid Training) คือหลักสูตรที่ให้ความรู้และทักษะในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้น ก่อนที่บุคลากรทางการแพทย์จะมาถึงที่เกิดเหตุ การอบรมนี้ไม่ได้มุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการฝึกเป็นแพทย์ แต่เป็นการสอนวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและรักษาชีวิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

โดยการอบรมปฐมพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่การประเมินสถานการณ์อย่างปลอดภัย การปฐมพยาบาลบาดแผลชนิดต่างๆ เช่น แผลถลอก แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก รวมถึงภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อยอย่างอาการสำลัก การหมดสติ การช็อก หรือภาวะหัวใจหยุดเต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นอีกด้วย

ความสำคัญของการอบรมปฐมพยาบาลต่อองค์กร

  • เพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงาน :

การอบรมช่วยให้พนักงานมีความรู้และทักษะในการรับมือกับอุบัติเหตุหรือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในที่ทำงาน เช่น อุบัติเหตุจากการทำงาน เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงานหรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกะทันหัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

  • สร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงาน :

เมื่อพนักงานรู้ว่าองค์กรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขภาพของพวกเขา ด้วยการจัดอบรมปฐมพยาบาลและเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน จะทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจและมีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม

  • ช่วยชีวิตและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ :

การปฐมพยาบาลที่รวดเร็วและถูกต้องในนาทีแรกๆ ของการเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ภาวะหัวใจหยุดเต้น ภาวะเลือดออกมากหรือการสำลัก สามารถช่วยรักษาชีวิตและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น การทำ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) ที่ถูกวิธีในผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นก่อนรถพยาบาลมาถึง จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้อย่างมาก

  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและปฏิบัติตามกฎหมาย :

การจัดอบรมปฐมพยาบาลเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อพนักงานและสังคม ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร นอกจากนี้ยังเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งบางประเทศหรืออุตสาหกรรมมีการบังคับให้มีบุคลากรที่ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลอยู่ในสัดส่วนที่กำหนด

ประเภทของการอบรมปฐมพยาบาล

1. การอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support: BLS) 

หรือ CPR + AED : หลักสูตรนี้จะเน้นไปที่การช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นหรือหยุดหายใจกะทันหันโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับทุกคน และเป็นหลักสูตรที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับบุคลากรในองค์กร เนื้อหาหลักคือ

  • การประเมินผู้ป่วยที่หมดสติ
  • ขั้นตอนการทำ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) อย่างถูกต้อง ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก
  • การใช้งานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
  • การช่วยเหลือผู้ป่วยที่สำลักอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ

2. การอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น (Basic First Aid) :

เป็นหลักสูตรพื้นฐานที่เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไปและพนักงานในองค์กรที่ไม่ต้องรับมือกับความเสี่ยงสูง เนื้อหาจะเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่ซับซ้อน เช่น

  • การประเมินสถานการณ์อย่างปลอดภัย
  • การโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • การปฐมพยาบาลบาดแผลทั่วไป เช่น แผลถลอก แผลถูกบาด
  • การห้ามเลือด
  • การปฐมพยาบาลสำหรับอาการแพ้หรือการถูกแมลงสัตว์กัดต่อย
  • การปฐมพยาบาลผู้ป่วยเป็นลม หมดสติหรือภาวะช็อก

3. การอบรมปฐมพยาบาลสำหรับสถานการณ์เฉพาะทาง :

เป็นหลักสูตรที่เจาะลึกมากขึ้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงเฉพาะ เช่น

  • ปฐมพยาบาลในโรงงานอุตสาหกรรม : เน้นการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากเครื่องจักร สารเคมี หรือกระแสไฟฟ้า
  • ปฐมพยาบาลในสถานศึกษา (ปฐมวัย/เด็ก) : เน้นการปฐมพยาบาลอาการบาดเจ็บและเจ็บป่วยที่พบบ่อยในเด็ก เช่น ไข้ชัก การสำลัก หรือบาดแผลจากอุบัติเหตุ
  • ปฐมพยาบาลผู้ประสบภัยทางน้ำ : เน้นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จมน้ำและเทคนิคการทำ CPR สำหรับผู้ป่วยจมน้ำ

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น

1. ใครควรเข้ารับการอบรมบ้าง?

ตอบ : ทุกคนสามารถเข้ารับการอบรมได้ โดยเฉพาะพนักงานองค์กร หน่วยงานราชการ ครู อาจารย์หรือแม้แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะอุบัติเหตุและเหตุฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา

2. การอบรมใช้เวลานานแค่ไหน?

ตอบ : ขึ้นอยู่กับหลักสูตร ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างครึ่งวัน (3–4 ชั่วโมง) ไปจนถึง 1–2 วัน หากเป็นหลักสูตรเข้มข้นที่รวมการใช้ AED หรือการฝึกภาคปฏิบัติเต็มรูปแบบ

3. อบรมปฐมพยาบาลแล้วจะได้ใบรับรองหรือไม่?

ตอบ : องค์กรหรือสถาบันที่จัดอบรมมักออกใบรับรอง (Certificate) ให้แก่ผู้ผ่านการอบรม เพื่อยืนยันว่าบุคคลนั้นมีความรู้และทักษะด้านปฐมพยาบาลเบื้องต้น

4. ต้องมีพื้นฐานมาก่อนหรือไม่?

ตอบ : ไม่จำเป็น เพราะการอบรมปฐมพยาบาลถูกออกแบบมาเพื่อผู้ไม่มีความรู้มาก่อนก็สามารถเรียนรู้และปฏิบัติตามได้

5. ควรอบรมปฐมพยาบาลบ่อยแค่ไหน?

ตอบ : แนะนำให้ทบทวนหรือเข้าอบรมซ้ำทุก 1–2 ปี เนื่องจากทักษะการปฐมพยาบาลต้องอาศัยการฝึกซ้ำ และแนวทางปฏิบัติอาจมีการปรับปรุงตามมาตรฐานสากลที่เปลี่ยนแปลงไป

6. หลักสูตรปฐมพยาบาลสอนเหมือนกันทุกที่หรือไม่?

ตอบ : โดยทั่วไปเนื้อหาหลักจะใกล้เคียงกัน เช่น การช่วยชีวิต การทำ CPR การห้ามเลือด แต่รายละเอียดปลีกย่อยหรือความเข้มข้นขึ้นอยู่กับสถาบันผู้จัดอบรม

7. ทำไมองค์กรจึงควรเลือกอบรมกับหน่วยงานที่ได้มาตรฐาน?

ตอบ : เพราะหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจะมีความถูกต้องตามมาตรฐานสากล และผู้สอนมักเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์หรือพยาบาลวิชาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้รับถูกต้องและปลอดภัย

เนื้อหาที่ควรมีในหลักสูตรอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ภาคทฤษฎี :

  • หลักการและเป้าหมายของการปฐมพยาบาล : ทำความเข้าใจว่าการปฐมพยาบาลคืออะไรและมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
  • การประเมินสถานการณ์และผู้ป่วย : สอนหลักการสำรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย และการประเมินอาการของผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ
  • การขอความช่วยเหลือ : วิธีการโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน (เช่น 1669) อย่างถูกต้องและให้ข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน
  • โรคและอาการฉุกเฉินที่พบบ่อย :
    • ภาวะช็อกและภาวะเป็นลม
    • อาการเลือดออกผิดปกติ
    • แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
    • การบาดเจ็บที่กระดูก ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ (กระดูกหัก ข้อเคลื่อน)
    • การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่ถูกไฟฟ้าดูด หรือสัมผัสสารพิษ
    • การปฐมพยาบาลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ลมชัก
  • ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น : อุปกรณ์ที่ควรมีในชุดและวิธีการใช้งาน

ภาคปฏิบัติ :

  • การทำ CPR และการใช้เครื่อง AED : การฝึกปฏิบัติกับหุ่นจำลองอย่างถูกต้องตามหลักสากล
  • การช่วยผู้ป่วยสำลัก : การฝึกทำ Heimlich Maneuver สำหรับผู้ใหญ่และเทคนิคสำหรับเด็กเล็ก
  • การพันผ้าและเข้าเฝือกชั่วคราว : การฝึกปฏิบัติในการพันผ้าเพื่อห้ามเลือดและเข้าเฝือกเพื่อประคองอวัยวะที่บาดเจ็บ
  • การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย : วิธีการยกหรือเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างปลอดภัยและถูกวิธี
  • สถานการณ์จำลอง : การจำลองเหตุการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ฝึกใช้ทักษะที่เรียนมาอย่างบูรณาการ

การอบรมปฐมพยาบาลไม่ใช่แค่การเพิ่มความรู้พื้นฐาน แต่คือทักษะชีวิตที่สามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้จริง สำหรับองค์กร การจัดให้พนักงานได้รับการอบรมถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกคนในที่ทำงาน อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานด้านความปลอดภัยได้อย่างครบถ้วน

หากคุณกำลังมองหาบริษัทที่เชี่ยวชาญการฝึกอบรมปฐมพยาบาล บริษัท บี เซฟ เทรนนิ่ง จำกัด (BE SAFE TRAINING) เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านฝึกอบรมความปลอดภัยในการทำงาน ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 และได้รับการรับรองจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เลขที่ 13-67-098 เราให้บริการอบรมความปลอดภัย, หลักสูตรอบรม จป. หัวหน้างาน, อบรม คปอ., อบรม จป. เทคนิค, อบรมที่สูง, อบรมที่อับอากาศ, อบรมช่างไฟฟ้า, อบรมอับอากาศ 4 ผู้, อบรมปั้นจั่น 4 ผู้, อบรมเครน 4 ผู้, อบรมปฐมพยาบาล, อบรมสารเคมี และยังให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO, ตรวจรับรองทางวิศวกรรม พร้อมห้องอบรม/สัมมนาให้เช่า

 

หากคุณกำลังมองหาหลักสูตร อบรมความปลอดภัย ครบ จบ ในที่เดียว
ติดต่อทีมงานมืออาชีพ อบรมปฐมพยาบาล
เพื่อรับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของคุณวันนี้

  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้