อบรมช่างไฟฟ้าในอาคารและโรงงาน ต่างกันอย่างไร?

15 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อบรมช่างไฟฟ้าในอาคารและโรงงาน

ความหมายและข้อปฏิบัติระหว่างการอบรมช่างไฟฟ้าในอาคารและโรงงาน

การประกอบอาชีพช่างไฟฟ้าในปัจจุบันจำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและระบบไฟฟ้า ซึ่งมีการแบ่งแยกประเภทงานตามลักษณะของสถานที่ทำงานอย่างชัดเจน คือ ช่างไฟฟ้าภายในอาคารและช่างไฟฟ้าในโรงงาน ดังนั้น หลักสูตรอบรมช่างไฟฟ้าจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ แม้จะใช้ความรู้พื้นฐานทางไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ระบบไฟฟ้าในอาคารและในโรงงานกลับมีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านของความซับซ้อน แรงดันไฟฟ้า อุปกรณ์ที่ใช้และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย บทความนี้จะนำเสนอรายละเอียดอย่างชัดเจนว่า การอบรมสำหรับช่างไฟฟ้าที่ทำงานในอาคารและช่างไฟฟ้าที่ทำงานในโรงงานนั้น มีเนื้อหาและจุดเน้นที่แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ผู้สนใจสามารถเลือกเส้นทางการพัฒนาทักษะได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสายงานของตนเอง

อบรมช่างไฟฟ้าภายในอาคาร

ตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคาร กำหนดนิยามของช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ว่าคือผู้ที่ประกอบอาชีพในงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร โดยเน้นที่ระบบไฟฟ้ากำลังแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไม่เกิน 1,000 โวลต์ และรวมถึงการปฏิบัติงานด้านการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง การซ่อมแซมและการตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั้งหมดภายในอาคารทั่วไป เช่น งานเดินสายไฟฟ้าด้วยท่อร้อยสาย การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน (เบรกเกอร์/ฟิวส์) และการต่อวงจรสำหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งเป็นสาขาอาชีพที่ถูกควบคุมโดยกฎหมายเพื่อความปลอดภัยต่อสาธารณะ

การอบรมช่างไฟฟ้าภายในอาคารจะเน้นไปที่ระบบไฟฟ้าแรงต่ำ (Low Voltage) ที่ใช้ในอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรืออาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยมีหัวข้อสำคัญตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 เช่น

  • งานติดตั้งและเดินสายไฟฟ้า
    • การเดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัดสาย (Wire Clip)
    • การเดินสายไฟฟ้าด้วยท่อร้อยสายไฟฟ้า (Conduit) ชนิดต่าง ๆ
    • การติดตั้งและต่อวงจรไฟฟ้าสำหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้า (Electrical Equipment) เช่น ดวงโคม, เต้ารับ, สวิตช์
  • งานใช้อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน : การเลือกใช้และการต่อวงจรของอุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ (Circuit Breaker) และฟิวส์
  • ความปลอดภัยพื้นฐาน
    • การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลเบื้องต้น
    • การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าและการปฐมพยาบาลผู้ถูกช็อกไฟฟ้า
  • การตรวจสอบ : การตรวจสอบการทำงานของวงจรไฟฟ้า

อบรมช่างไฟฟ้าภายในโรงงาน

แม้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติของไทยไม่ได้มีนิยามเฉพาะสำหรับคำว่า ช่างไฟฟ้าในโรงงาน แยกออกมา แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่างไฟฟ้าในโรงงาน (Industrial Electrician) หมายถึงผู้ที่รับผิดชอบในการติดตั้ง บำรุงรักษาและแก้ไขระบบไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนและมีกำลังไฟฟ้าสูงในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม โดยงานจะเน้นไปที่ ระบบไฟฟ้ากำลังและระบบควบคุมเครื่องจักร เช่น การจัดการตู้ควบคุมมอเตอร์ (MCC), การต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า, การดูแลระบบไฟฟ้าแรงสูง (ถ้ามี), ระบบอัตโนมัติ (Automation) และการจัดการกับอุปกรณ์เฉพาะทางอุตสาหกรรม (เช่น คอนแทกเตอร์, PLC, อินเวอร์เตอร์) โดยต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและข้อกำหนดเฉพาะสำหรับเครื่องจักรและกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันการหยุดชะงักของสายงาน

การอบรมช่างไฟฟ้าภายในโรงงาน แม้จะไม่มีมาตรฐานการอบรมที่แยกชื่อชัดเจนเป็นช่างไฟฟ้าในโรงงาน แต่เนื้องานของช่างไฟฟ้าในโรงงานจะครอบคลุมในส่วนที่เกี่ยวกับระบบควบคุมและกำลังที่มักจะไม่พบในงานไฟฟ้าภายในอาคารทั่วไป โดยอาจอ้างอิงจากหลักสูตรที่เน้นทักษะเพิ่มเติม เช่น

  • ระบบควบคุมมอเตอร์และเครื่องจักร
    • การจัดวางอุปกรณ์ในตู้ควบคุมมอเตอร์ (Motor Control Center - MCC)
    • การเดินสายไฟฟ้าในตู้ควบคุมมอเตอร์
    • การต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง/กระแสสลับ (DC/AC Motor Control)
    • การปรับค่าและการทำงานของรีเลย์ป้องกัน (Protective Relays)
  • ระบบไฟฟ้าแรงสูง (ในโรงงานขนาดใหญ่) : การจัดการและการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง (ถ้าโรงงานมีหม้อแปลงไฟฟ้าเอง)
  • การแก้ไขปัญหาขั้นสูง : การตรวจสอบและการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในวงจรควบคุมและวงจรไฟฟ้ากำลังที่ซับซ้อน
  • มาตรฐานและข้อกำหนดเฉพาะ : ความรู้เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและข้อกำหนดการติดตั้งสำหรับระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม

ความแตกต่างระหว่างการอบรมช่างไฟฟ้าในอาคารและโรงงาน

  1. ข้อแตกต่างเชิงกฎหมายและมาตรฐานที่ต้องอ้างอิง
    • กฎหมาย/ประกาศที่นายจ้าง-ผู้ปฏิบัติต้องปฏิบัติ : กระทรวงแรงงาน/กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กำหนดให้ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ต้องผ่านการฝึกอบรมความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า (มีข้อกำหนดหัวข้อขั้นต่ำและการบันทึกผลการอบรม) นายจ้างมีหน้าที่จัดอบรมและเก็บหลักฐาน
    • โรงงาน (กรมโรงงานอุตสาหกรรม / กฎกระทรวงเฉพาะ) โรงงานภายใต้กฎหมายโรงงานมีมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เช่น ข้อกำหนดให้ตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าเป็นประจำ (รายปี) และมีคู่มือ/แบบฟอร์มการตรวจสอบที่ละเอียดกว่าอาคารทั่วไป ดังนั้นโรงงานมักต้องการบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมช่างไฟฟ้าเฉพาะทางและมีการบันทึกการตรวจสอบเป็นระบบ
    • การติดตั้งเชิงพาณิชย์/อาคาร (MEA / PEA / รหัสการติดตั้ง) การไฟฟ้ามีมาตรฐานการติดตั้งและข้อกำหนดสำหรับการขึ้นทะเบียนผู้รับเหมา หรือผู้รับรองการเดินสายภายในอาคาร (ขั้นตอนขอใช้ไฟฟ้า ตรวจสอบงานเดินสายแบบ As-Built ฯลฯ) ช่างที่ทำงานติดตั้งเชิงที่อยู่อาศัย/พาณิชย์ต้องรู้และปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้
  2. หัวข้อการอบรมช่างไฟฟ้าที่ต่างกัน
    • เนื้อหาหัวข้อการอบรมที่จะต้องใช้ร่วมกัน ได้แก่
      • ความรู้พื้นฐานไฟฟ้า (แรงดัน กระแส กำลัง ความต้านทาน)
      • การอ่านแบบวงจร/แปลผังไฟฟ้าในอาคาร
      • การเดินสายไฟฟ้าและการเลือกขนาดสาย/เบรกเกอร์สำหรับภายในอาคาร (wiring & protection)
      • ระบบกราวด์และการป้องกันไฟดูดพื้นฐาน
      • การติดตั้ง/ทดสอบอุปกรณ์ เช่น สวิตช์ ปลั๊ก RCD/ELCB, โคมไฟ
      • การปฏิบัติงานเมื่อเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า (การขออนุญาต ตรวจแบบ As-Built)
      • ความปลอดภัยพื้นฐานและการปฐมพยาบาลจากอุบัติเหตุไฟฟ้า (ตามประกาศกระทรวงแรงงาน) โดยหลักสูตรความปลอดภัยขั้นต่ำตามกฎหมายมีเนื้อหาบังคับบางหัวข้อและเวลาอบรมขั้นต่ำที่กำหนด
    • สำหรับการอบรมช่างไฟฟ้าในโรงงาน (จะมีเนื้อหาเชิงเทคนิคเพิ่มขึ้น) เช่น
      • วิเคราะห์ระบบไฟฟ้ากำลัง (เมนบัส, หม้อแปลง, Power distribution)
      • การทำงานกับมอเตอร์, starter, VFD, control circuits, PLC เบื้องต้น
      • การวิเคราะห์และป้องกัน arc-flash (ระดับอันตรายและการเลือก PPE)
      • การปิด/แยกพลังงานก่อนทำงาน (Lockout-Tagout / Permit-to-Work) และกระบวนการตรวจสอบก่อนขึ้นงาน (isolation procedures)
      • การตรวจวัดและทดสอบ (megger, insulation resistance, earth resistance, thermal imaging)
      • การจัดการพื้นที่อันตราย (classification), การป้องกันความเสี่ยงไฟไหม้/ระเบิดจากฝุ่น/ไอน้ำ/ไฮโดรคาร์บอน
      • การวางแผนบำรุงรักษาและการจัดทำบันทึก (maintenance log, periodic checklists) — โรงงานมักต้องการการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติและการทดสอบประเมินความสามารถ
  3. ระยะเวลา / รูปแบบการอบรม (แนวปฏิบัติ)
    • กฎหมายของกรมสวัสดิการฯ กำหนดกรอบ การฝึกอบรมช่างไฟฟ้าและความปลอดภัยในการทำงานสำหรับลูกจ้างที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า โดยมีข้อกำหนดหัวข้อและระยะเวลาขั้นต่ำ ตัวอย่าง หลักสูตรความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเป็นไปตามประกาศ (โปรดดูรายละเอียดประกาศเพื่อตรวจหัวข้อที่บังคับ)
    • หลักสูตรเชิงช่าง/รับรองฝีมือ เช่น การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร จะมีเนื้อหาครอบคลุมมากกว่าและใช้เวลาเรียน/ฝึกปฏิบัตินานกว่า (หลายวัน–หลายสัปดาห์ ขึ้นกับหลักสูตร/ระดับ) หน่วยงานที่กำหนดมาตรฐานคือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (คู่มือการทดสอบและรายละเอียดภาคความรู้/ภาคปฏิบัติ)
    • โรงงานมักต้องอบรมเชิงลึกและมีการอบรมซ้ำเป็นระยะ โดยเฉพาะหัวข้อ LOTO, arc-flash และการใช้อุปกรณ์ทดสอบ — รวมถึงการจัดทำบันทึกการอบรมและผลการประเมินตามข้อกำหนด

คำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับองค์กร/เจ้าหน้าที่จัดอบรมช่างไฟฟ้า

  • ออกแบบหลักสูตรตามสภาพงานจริง โดยแยกเนื้อหาพื้นฐานกับเนื้อหาเชิงชำนาญ (เฉพาะช่างโรงงาน/ช่างติดตั้ง)
  • เลือกวิทยากร/ผู้ฝึกที่มีใบรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ฯลฯ และใช้คู่มือมาตรฐาน
  • บันทึกผลการอบรม โดยใส่รายละเอียด ดังนี้ ชื่อผู้เข้าอบรม วันเวลา หัวข้อ ผลประเมิน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานตามกฎหมายแรงงาน
  • จัดอบรมซ้ำโดยเฉพาะหัวข้อความปลอดภัย เช่น LOTO, PPE, arc-flash และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบหรือเครื่องจักรใหม่
  • เชื่อมโยงการอบรมกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นระบบ โดยโรงงานควรมีการตรวจสอบ/รับรองระบบไฟฟ้าเป็นประจำตามคู่มือของกรมโรงงาน

อบรมช่างไฟฟ้าในอาคารและโรงงานมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยหลักสูตรช่างไฟฟ้าในอาคารจะเน้นที่ระบบไฟฟ้าแรงต่ำ (220V/380V) สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การติดตั้งแสงสว่าง เต้ารับและการเดินสายตามมาตรฐานอาคาร ขณะที่หลักสูตรสำหรับช่างไฟฟ้าในโรงงาน หรือหลักสูตรที่เน้นทักษะทางอุตสาหกรรม จะครอบคลุมงานที่มีความซับซ้อนกว่ามาก ซึ่งรวมถึงระบบไฟฟ้ากำลังสูง ระบบควบคุมมอเตอร์ ตู้ควบคุมเครื่องจักร (MCC) และความรู้เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ (Automation) ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงและใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง โดยทั้งสองสาขาต่างต้องการการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อรับบัตรประจำตัวช่างเพื่อความปลอดภัยตามกฎหมาย นั่นเอง

หากองค์กรของคุณต้องการจัด อบรมช่างไฟฟ้าในอาคารและโรงงานให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ บริษัท บี เซฟ เทรนนิ่ง จำกัด พร้อมให้บริการจัดอบรมโดยวิทยากรมืออาชีพที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานภาครัฐ ครอบคลุมทั้งหลักสูตรพื้นฐานและหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น อบรมช่างไฟฟ้าภายในอาคาร อบรมช่างไฟฟ้าโรงงานและอบรมความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า โดยเน้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของกระทรวงแรงงานและกรมโรงงานอุตสาหกรรม สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


หากคุณกำลังมองหาหลักสูตร อบรมความปลอดภัย ครบ จบ ในที่เดียว

ติดต่อทีมงานมืออาชีพ อบรมช่างไฟฟ้า

เพื่อรับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของคุณวันนี้

   

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้